วันเสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2554

ต้นซ้อlขนมดอกซ้อ

ต้นซ้อ
ต้นซ้อ Gmelina arborea Roxb.  Lamiaceae (Labiatae)
ชื่ออื่น แก้มอ้น (ชุมพร,อุดรธานี); ช้องแมว (ชุมพร,ปราจีนบุรี, ราชบุรี,สุพรรณบุรี); เซาะแมว (นราธิวาส); แต้งขาว (เชียงใหม่); เป้านก (อุตรดิตถ์); เฝิง (เพชรบุรี,เหนือ); ม้าเหล็ก (กาญจนบุรี); เมา (สุราษฎร์ธานี); สันปลาช่อน (สุโขทัย)
ซ้อ หรือ GMELINA ARBOREA ROXB. อยู่ในวงศ์ VERBENACEAE 
ต้นซ้อยามออกดอก

ต้นซ้อ เป็นไม้ต้นขนาดกลาง สูงได้ประมาณ 20 ม. ใบเดี่ยวเรียงตรงข้ามสลับฉาก รูปไข่ ยาว 7-20 ซม. ปลายใบแหลมหรือแหลมยาว โคนใบรูปลิ่มกว้าง แผ่ออกคล้ายรูปหัวใจ ขอบใบเรียบ แผ่นใบด้านบนเกลี้ยง ด้านล่างมีนวลและมีขนสั้นนุ่ม เส้นแขนงใบ 3-5 คู่ ออกจากโคน 1 คู่ ก้านใบยาว 3-10 ซม เป็นร่องด้านบน
ดอกซ้อ
ดอกซ้อ ช่อดอกซ้อเป็นแบบช่อ กระจุกแยกแขนงสั้นๆ ออกตามปลายกิ่ง มี 1 หรือหลายช่อ ยาว 7-15 ซม. ใบประดับหลุดร่วงง่าย กลีบเลี้ยงและกลีบดอกมีจำนวนอย่างละ 5 กลีบ กลีบเลี้ยงรูประฆัง ยาว 0.3-0.4 ซม. ปลายกลีบรูปสามเหลี่ยมขนาดเล็ก ด้านนอกมีขน ติดทน กลีบดอกสมมาตรด้านข้าง รูปปากแตรโป่งด้านเดียว ยาว 2-4 ซม. ปลายแยกเป็น 5 กลีบ กลีบบน 2 กลีบ กลีบล่าง 3 กลีบ ไม่เท่ากัน ด้านนอกมีสีน้ำตาลแดง ด้านในหลอดกลีบสีครีมอ่อนๆ กลีบปากล่างกลีบกลางด้านในมีสีเหลืองแซม มีขนสั้นนุ่มด้านนอก ด้านในเกลี้ยง เกสรเพศผู้ สั้น 2 อัน ยาว 2 อัน ยื่นไม่พ้นปากหลอดกลีบดอก ก้านเกสรเพศผู้ติดบนหลอดกลีบดอกตรงประมาณกึ่งกลาง รังไข่เกลี้ยง มีต่อม ยอดเกสรเพศเมียมี 2 แฉกไม่เท่ากัน
ผลของซ้อ
ผลต้นซ้อ ผลแบบเมล็ดเดียวแข็ง สุกสีเหลือง รูปไข่หรือรูปไข่ ยาว 1.5-2 ซม. ซ้อหินมีเขตการกระจายพันธุ์กว้าง พบตั้งแต่อินเดีย ศรีลังกา เนปาล บังคลาเทศ ภูฎาน พม่า จีนตอนใต้ ภูมิภาคอินโดจีนและมาเลเซีย ในไทยพบกระจายทั่วทุกภาค ขึ้นตามป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง ป่าดิบเขา และป่าดิบชื้น ระดับความสูงจนถึงประมาณ 1500 เมตร

สรรพคุณของซ้อ  เปลือกของต้นซ้อสามารถแก้โรคผิวหนัง ผื่นคันตามร่างกายได้
ขนมดอกซ้อ
ขนมดอกซ้อ ดูวิธีทำได้จากคลิปดังต่อไปนี้ค่ะ


วันศุกร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2554

อกหักlคิดทางบวกชีวิตก็บวก


สนใจอะไรกับแค่คนคนหนึ่ง คนที่เราไม่ได้มีความหมายสำหรับเขาเลยแม้แต่น้อย คนที่ไม่เคยเห็นใจกันจริงๆ เป็นเพียงหน้ากากหลอกล่อ ว่าฉันเห็นใจซะเต็มประดา เป็นเพียงข้อความหนึ่งข้อความว่า เป็นยังไงบ้าง สบายดีใช่ไหม เป็นเพียงคำพูดแคคำว่า เลิกกันเถอะ เป็นเพียงการกระทำ เพื่อให้อีกฝ่ายรู้ว่า ฉันไม่ได้รักเธอแล้ว เข้าใจไหม แต่ฉันพูดไม่ได้ จึงพยายามสลัดเธอด้วยการให้เธอจากฉันไปเอง ฉันจะได้ไม่ต้องรู้สึกผิด ฉันจะได้ไม่ต้องขึ้นชื่อว่า เคยบอกเลิกใคร ไม่เคยบอกเลิกใครก่อน 555+ ภูมิใจนักใช่ไหมกับแค่คนคนหนึ่งที่ไม่เคยสนใจว่า อีกคนจะร้องไห้ จะเจ็บเจียนตายแค่ไหน หรือจะกินข้าวบ้างหรือยังตั้งแต่วันที่เกิดปัญหา ไม่ ไม่เคยสน ตอนนี้มีความสุขมากกับคนใหม่ จะเป็นอย่างไร เดี่ยวก็หายเองล่ะ อกหักไม่ถึงตายหลอก เดี่ยวก็ลืม เหอะๆ ยังรู้สึกอยากร้องไห้อีกไหม ร้องไห้ไปเพื่อใคร ถ้าไม่อยากร้องไห้ ลองมาคิดเรื่องอื่นดีกว่าไหม เช่น
ข้อดีของการเป็นโสดไปจนตาย

1.หาเงินมาก็ใช้ไป ไม่ต้องเก็บเพื่ออนาคตของใคร เพียงเก็บเพื่ออนาคตของเราคนเดียว ลองคิดดูนะ ถ้ามีลูก มีสามี มีภรรยา สิ่งที่ตามมาคือ จะเลี้ยงลูก เงินส่งเรียน ฯลฯ ยึดติดทำไม หาเรื่องลำบากใส่ตัวทำไม

2.ชีวิตอิสระ ลองคิดดูนะ เกิดมาก็แค่ ไม่กี่สิบปีก็ตาย จะรีบตายไปทำไม อยู่ให้หนักแผ่นดินไปก่อน เพราะบนแผ่นดินยังมีสิ่งสวยงามให้ทำอีกเยอะ ให้ได้เจออีกเยอะ ถ้าคิดว่าตายแล้ว จะพ้นทุกข์รู้หรอว่าตายแล้วจะไม่ต้องรู้สึกอะไรแบบนี้อีก คิดผิดหรือป่าว เกิดถ้าตายแล้วจะต้องรู้สึกเจ็บปวดแบบนี้ไปตลอดไม่มีวันหาย มันทรมานนะ สู้อยู่เป็นคน อีกเพียง 1 ปีคุณจะมีชีวิตได้อย่างคนปกติ หรือไม่อาจใช้เวลาน้อยกว่า

3.ทุกวันนี้ปรนเปรอตัวเองพอหรือยัง หรือ เอาไว้ปรนเปรอคนอื่น มีของที่อยากได้ครบหรือยัง มีเงินให้ฟุ่มเฟือยพอหรือยัง มีความสุขพอหรือยัง ถ้ายังหามันมาใส่ตัวสิ สนใจไร งานถ้ามันเหนื่อยมากนัก ลำบากมากนักนะ ก็ทำอย่างอื่นซิ เกิดมาแค่ครั้งเดียวทนเพื่อไร อืมถ้ามีครอบครัวก็คงต้องบอกว่าทนเพื่อครอบครัว แต่นี่เราโสด อกหักนะดีแล้ว จะได้ทำเพื่อตัวเอง

4.อยากไปไหนก็ไปซิ  ปีนี้จะทำงานที่เหนือ วันหยุดก็จะไปเที่ยวให้ทั่วเหนือเลย (อ้อ ไม่ต้องเลือกงานอยากทำไรทำไป ทำทุกอย่างยิ่งดี เราจะได้รู้ว่า เราชอบแบบไหน) พอถึงปีหน้าก็ไปอยู่ใต้ ทำงานใต้ซักปี ก็ย้ายไปเรื่อยๆ วนิพกพเนจร เฮ่อๆ!!! ชีวิตมีความสุขจะตาย ยึดติดทำไม

5.อยากกินก็กินเลย เก็บเงินเอาตังซื้อของอร่อยๆกิน และไปสมัครฟิตเนส ว่ายน้ำบ้าง โชว์หวิวบ้าง อิอิ
ดูแลตัวเองด้วย ของบำรุงทุกอย่าง จะฉีดผิวขาวด้วยก็ไม่ว่ากันหลอกนะ

ก็แค่สิ่งมีชีวิต

อีกไม่กี่สิบปีก็ตายห่า จะยึดติดไปทำไม เกิดมาก็ตัวคนเดียว ไม่ได้มีฝาแฝดตัวติดกัน
อย่าเอาบ่วงมาผูกคอ อย่าเอาโซ่มาล่ามขา อย่าเอาหมามานั่งเฝ้า ชีวิตมีอิสระ
เป็นแค่ละครฉากหนึ่ง ตายเมื่อไรก็อวสาน มันเป็นประการฉะนี้แล....


เวลาไม่ได้ผ่านไปช้า เวลาไม่ได้ผ่านไปเร็ว

ถ้าอยากตายเร็ว ก็จงมีความสุขมากๆ เพราะเมื่อมีความสุข เวลามักผ่านไปเร็วเสมอ


ถ้าอยากตายช้าๆ ก็จงมีความทุกข์ให้มาก เพราะเมื่อมีความทุกข์ เวลามักผ่านไปช้าเสมอ

วันพุธที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2554

ดอกไม้กับผู้หญิง

ดอกไม้เปรียบผู้หญิง ภุมรินเปรียบดั่งชาย
ดอกไม้ เปรียบได้กับผู้หญิง ดอกไม้มีหลายชนิด หลายประเภท ก็เปรียบได้กับผู้หญิงที่มีหลากหลายชนิด หลายประเภท วันนี้จะมาเปรียบดอกไม้แต่ละชนิดกับผู้หญิงกัน
ดอกมะลิ ผู้หญิงที่ควรค่าแก่การบูชา การดูแลและเอาใจใส่ เปรียบได้กับมะลิมักอยู่บนหิ้งพระและมีกลิ่นหอม ผู้หญิงดอกมะลิ ผู้ชายมักรักและเคารพ อาจไม่ได้หมายถึงแม่เพียงอย่างเดียว แต่ยังหมายถึงคนรักที่ดี เป็นแม่ศรีเรือน เอาใจใส่ปฏิบัติดูแลลูกและคู่ครองอย่างดี และมีศีลธรรม ไม่คิดนอกใจและนอกกาย อาจยังหมายถึงผู้หญิงที่ดูสะอาดตา บริสุทธิ์ มีกลิ่นหอม แต่ไม่ได้มีสีสันที่สดุดตา สดุดใจ
ดอกกุหลาบ

วันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2554

บ้านนอก ตอน ทำกับข้าว

ทำกับข้าวของคนบ้านนอก
วันนี้ไม่รู้จะเขียนเรื่องอะไรดี นั่งนึกไปนึกมาก็คิดถึงความเป็นบ้านนอกที่บ้านเกิด นึกถึงทีไรก็มีรอยยิ้มทุกที หลายคนที่ไม่เคยใช้ชีวิตวัยเด็กที่บ้านนอกจะไม่รู้เลยว่า มีเรื่องให้เราได้ตื่นเต้นมากแค่ไหน วันนี้ก็เลยจะมาเล่าเรื่องราวความเป็นบ้านนอกให้คนเมืองหลวงเขาอิจฉาเล่นๆ
เริ่มจากตอนเช้า เด็กบ้านนอกจะตื่นแต่เช้าเพื่อช่วยพ่อแม่ทำกับข้าว ใส่บาตร และเตรียมตัวไปโรงเรียน
คนบ้านนอก หรือ คนสมัยก่อน มักทำอะไรร่วมกัน คุยกันไปทำกันไป จึงทำให้เกิดความอบอุ่นในครอบครัว  ผิดกับคนเมืองหลวง อย่าว่าแต่ทำกับข้าวเลย กินข้าวก็ยังต่างคนต่างกิน ไปคนละทิศละทาง

ปลาเก๋า แมวไทยพูดได้


ปลาเก๋า  แมวพูดได้ จริงหรือ

ปลาตะเพียนใบลาน

ปลาตะเพียนใบลาน คือ การนำเอาใบลานมาสานเป็นรูปปลาตะเพียน นิยมนำมาแขวนที่เปลของเด็กตามความเชื่อต่างๆ
ใบตาล

ใบมะพร้าว
ความเป็นมาของปลาตะเพียนใบลาน
การสานปลาตะเพียนใบลานเป็นอาชีพเก่าแก่ ที่ทำสืบต่อกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ เป็นเวลานานกว่า 100 ปีแล้ว โดยสันนิษฐานกันว่าชาวไทยมุสลิม ซึ่งล่องเรือขายเครื่องเทศอยู่ตามแม่น้ำเจ้าพระยา และอาศัยอยู่ในเรือเป็นผู้ประดิษฐ์ปลาตะเพียนสานด้วยใบลานขึ้นเป็น ครั้งแรก แรงบันดาลใจอาจจะมาจากความรู้สึกผูกพันอยู่กับท้องน้ำ สิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัวและความคุ้นเคยกับรูปร่างหน้าตาของปลาตะเพียนเป็นอย่างดี โดยใช้วัสดุจากท้องถิ่น เช่น
ปลาตะเพียนใบลาน

ใบมะพร้าว ใบลาน ใบตาล ปลาตะเพียนที่สานด้วยใบลานในสมัยก่อนนั้น ไม่สวยงามและมีขนาดใหญ่โตเช่น ปัจจุบันนี้ ปลาตะเพียนรุ่นแรกที่สร้างขึ้นเรียกว่า “ปลาโบราณ” โดยจะทำเป็นตัวปลาขนาดเล็กๆ ขนาด 1-3 ตัวเท่านั้น ปลาตะเพียนใบลานมักทาด้วยสีเหลืองซีดๆ ที่ทำด้วยวัตถุดิบตามธรรมชาติที่เรียกว่า “รงค์” ผสมกับน้ำมันวานิช แล้วนำไปเสียบไม้สำหรับห้อยแขวน และปลาตะเพียนใบลานในสมัยก่อนยังมีจำนวนน้อยมากถ้าเทียบกับปัจจุบัน
ปลาตะเพียนโบราณกับความเชื่อ 
เปลเด็ก

ปลาตะเพียนใบลาน เป็นงานหัตถศิลป์ฝีมือชาวมุสลิมในท้องที่ท่า วาสุกรี บ้านหัวแหลมที่อยู่คู่อยุธยามาเป็นเวลาร่วมร้อยปีจนถึงวันนี้ ก็ยังนับได้ว่า อยุธยาเป็นแหล่งผลิตปลาตะเพียนสานใบลานใหญ่ที่สุดในประเทศ คนไทยคุ้นเคยและใกล้ชิดกับปลาตะเพียนมานานแล้ว และสมัยก่อนเชื่อกันว่า ปลาตะเพียนเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ เพราะช่วงที่ปลาโตเต็มที่ กินได้อร่อยเป็นช่วงที่ข้าวตกรวงพร้อมเก็บเกี่ยวพอ ดีเรียกว่าเป็นช่วง “ข้าวใหม่ปลามัน” ด้วยความเชื่อในเรื่องดังกล่าว จึงมีผู้นิยมนำใบลานแห้งมาสานขดกันเป็นปลาตะเพียนจำลองขนาดต่างๆ แล้วผูกเป็นพวงๆ แขวนไว้เหนือเปลนอนของเด็กอ่อนเพื่อให้เด็กดูเล่น และถือเป็นสิ่งมงคลสำหรับเด็ก เท่ากับเป็นการอวยพร ให้เด็กเจริญเติบโตมีฐานะมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ดุจปลาตะเพียนใน ฤดูข้าวตกรวง บ้างก็มีความเชื่อว่า ปลาตะเพียนเป็นสิ่งสิริมงคล ทำให้เงินทองไหลมาเทมา บ้างก็ว่า หากบ้านไหนแขวนปลาตะเพียนไว้หน้าบ้านจะทำให้บ้านนั้นมั่งมีศรีสุข ทำมาค้าขึ้น นอกจากนี้ปลาตะเพียนยังมีนัยยะ ที่บ่งบอกถึงเรื่องความขยันหมั่นเพียรอีกด้วย ปลาตะเพียนสานเป็นเครื่องแขวนที่ประกอบด้วยชิ้นส่วนสำคัญ 6 ชิ้นคือ กระโจม แม่ปลา กระทงเกลือ ปักเป้า ใบโพธิ์ และลูกปลา มี 2 ชนิด คือ ชนิดที่เขียนเป็นลวดลายตกแต่งสวยงามสำหรับแขวนเหนือเปลลูก ผู้มีบรรดาศักดิ์ และ ชนิดเป็นสีใบลานเรียบๆ ไม่มีการตกแต่งอย่างใดใช้แขวนเหนือเปลลูกชาวบ้านธรรมดาสามัญ ปลาตะเพียนใบลานที่มีลวดลายสีสันต่างๆ อย่างที่เห็นในปัจจุบัน เป็นปลาตะเพียนที่ประดิษฐ์ขึ้นใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 5 สืบทราบได้เป็นเลาๆ ว่าหลวงโยธาฯ ข้าราชการเกษียณผู้มีนิวาสสถานอยู่ใกล้สะพานหัน ตำบลวังบูรพา กรุงเทพฯ เป็นผู้ประดิษฐ์คิดทำให้สวยงามขึ้น แล้วนำออกจำหน่ายตามงานวัดต่างๆ นับแต่นั้นมาคนก็หันมานิยมปลาตะเพียนสานกันมากขึ้น ในปัจจุบัน ความนิยมการสานปลาตะเพียนไปแขวนเปลให้เด็กอ่อนอาจจะเหลือน้อยมาก แต่กลายเป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือน และสร้างรายได้ให้ครอบครัวได้เป็นอย่างดี

วันพุธที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2554

เฉาก๊วยนมสดง่ายกว่าที่คิด

เฉาก๊วยนมสด

วิธีทำเฉาก๊วยนมสดง่ายกว่าที่คิด
1. น้ำแข็งทุบ(ไม่ใช่น้ำแข็งหลอด) ใส่แก้ว
2. เทนมสดลงในน้ำแข็ง หลังจากนั้นเท เฉาก๊วยและน้ำเฉาก๊วยตามลงในน้ำแข็งเช่นเดียวกัน
     วิธีทำเฉาก๊วยกดที่นี่  วิธีทำเฉาก๊วย
3. ใส่คาราเมลลงไปนิดหนึ่ง หรือจะใส่น้ำผึ้ง แทนก็ได้ แล้วแต่ชอบ
4. ใช้ช้อนกวนให้ส่วนผสมของนมสด และคาราเมลในเฉาก๊วยให้เข้ากันจนเป็นสีเหมือนกันกับกาแฟ
5.อาจใส่เพิ่มเติม เช่น เม็ดแมงลัก ลูกชิด หรือ แคนตาลูป เป็นต้น

เฉาก๊วยนะไม่ใช่เฉาก๋วย

ต้นเฉาก๊วย

 เฉาก๊วย นะ ไม่ใช่เฉาก๋วย เห็นหลายๆ คนพิมพ์ผิดนะ
เฉาก๊วย เป็นอาหารหวานชนิดหนึ่ง ซึ่งมีแพร่หลายในประเทศจีน จนถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เฉาก๊วยเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะที่เป็นทั้งในอาหารหวาน และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ สำหรับในประเทศไทยนั้น ถือว่าเป็นอาหารหวานระดับพื้นบ้าน เนื่องจากมีการจำหน่ายทั่วไปในชุมชนเมืองทั่วประเทศ ส่วนในภาษาจีนกลางจะเรียกว่า ´เหลียงเฝิ่น´ หรือ ´เซียนเฉ่า´ ที่แปลว่าหญ้าเทวดา ขณะที่ชาวมาเลย์จะเรียกว่า ´จินเจา´ เป็นต้น
ต้นเฉาก๊วยแห้ง

ต้นเฉาก๊วยที่ใช้ได้จะมีขนาดความสูงประมาณสองฟุต สมัยก่อนไทยต้องสั่งต้นเฉาก๊วยแห้งจากเมืองจีน มาทำเฉาก๊วยปีละนับล้านบาท มา ๒๐ ปี นี้เอง จึงมีคนไทยนำพันธุ์เฉาก๊วยมาปลูกในเมืองไทย ทำรายได้ให้แก่ผู้ปลูกไม่น้อย
การผลิตเฉาก๊วยให้อร่อย ต้องใช้ต้นเฉาก๊วยถึง 3 สายพันธุ์  คือต้นเฉาก๊วยจากจีน อินโดนีเซีย และเวียดนาม เหตุเพราะมีความแตกต่างกันทางคุณลักษณะ คือ เฉาก๊วยเวียดนามจะมีความหวานมากกว่า ส่วนอินโดนีเซียจะให้ความเหนียวนุ่ม และของจีนก็ใช้สำหรับผสมเพื่อให้รสกลมกล่อม
วิธีทำเฉาก๊วย
เฉาก๊วย เป็นผลผลิตต่อเนื่องจากการแปรรูปต้นเฉาก๊วย ซึ่งเป็นพืชในวงศ์ Lamiaceae (วงศ์มิ้นท์) วงศ์เดียวกับ สะระแหน่ กะเพรา โหระพา แมงลัก และ ยี่หร่า
เฉาก๊วยเย็นๆจร้า

วิธี ทำเฉาก๊วยอย่างง่ายๆ คือ นำต้นเฉาก๊วยแห้งมาต้ม จนยางไม้และแพคตินละลายออกมาได้น้ำสีน้ำตาลดำ เรียกว่า ชาเฉาก๊วย จากนั้นก็กรองเอาแต่น้ำ แล้วนำไปผสมกับแป้งพืช เพื่อให้เฉาก๊วยคงตัวเป็นเจลลี่ ซึ่งส่วนประกอบนั้น แต่ละเจ้าจะมีสูตรของตนเอง วิธีที่เป็นต้นตำรับโบราณนั้น นิยมผสมกับแป้งท้าวยายม่อม และแป้งมันสำปะหลัง อัตราส่วนตามความเหมาะสม โดยแป้งมันจะทำให้เนื้อเฉาก๊วยนิ่ม (ใส่มากจะเหลว) ส่วนแป้งท้าวยายม่อมจะให้เนื้อเฉาก๊วยคงรูปได้นาน อาจปรับปรุงโดยใส่แป้งข้าวเจ้าเพื่อให้แข็งตัวขึ้น หรือเพิ่มแป้งข้าวเหนียวให้มีความหนุบหนับ หรือใส่ส่วนผสมอื่นๆ ก็ได้ ปัจจุบัน มีผู้ค้าบางรายใส่สีผสมอาหารให้สีดำเข้มบ้าง ใส่วุ้น-เจลาติน เพื่อประหยัดต้นทุนก็มี

หรือมีอีกวิธีโดยละเอียด คือ

ส่วนผสมของเฉาก๊วย

1. หญ้าเฉาก๊วยแห้ง 1/2 กิโลกรัม
2. น้ำสะอาด 18 ลิตร (1 ถัง)
3. แป้งมันสำปะหลัง

วิธีทำ

1. นำหญ้าเฉาก๊วยแห้งมาล้างให้สะอาด เพื่อให้ทรายหรือสิ่ง
แปลกปลอมอื่น ๆ ออกหมด แล้วนำไปใส่ปี๊บหรือถังสแตนเลส
เติมน้ำสะอาดลงไป

2. นำไปต้มด้วยไฟปานกลาง ใช้ไม้พายคนเรื่อย ๆ ไม่ให้น้ำล้น
ออกมา ใช้เวลาเคี่ยวประมาณ 4 ชั่วโมง ก็จะได้น้ำเฉาก๊วยที่ดำ
และเข้มข้น

3. เทน้ำเฉาก๊วยที่ได้ออกพักในหม้อ รอให้เย็น ซึ่งเมื่อเย็นแล้ว
จะมีความเข้มข้นมากกว่าเดิม แล้วจึงนำมากรองเอากากออก
โดยใช้ผ้าขาวบางรองซ้อนกัน 3 ชั้น วางบนปากภาชนะ เทน้ำ
เฉาก๊วยกรองผ่านผ้าลงไป โดยกรอง 3 ครั้ง แต่ละครั้งพยายาม
คั้นกาก ให้น้ำออกมามาก ๆ เพื่อจะได้มีความดำและเหนียวมาก ๆ

4. อาจจะเติมแป้งมันสำปะหลังลงไปในน้ำเฉาก๊วยเพื่อช่วยให้
เฉาก๊วยแข็งตัวเป็นก้อนมากขึ้น

5. นำไปตักแบ่งรับประทานตามใจชอบ
การ รับประทานเฉาก๊วยแต่เดิมชาวจีนจะกินกับน้ำตาลทรายแดง โดยเอามาคลุกกับน้ำตาลให้เข้ากัน คนไทยนำมาดัดแปลงโดยหั่นเป็นชิ้นๆ ใส่ในน้ำเชื่อมและน้ำแข็ง กินกับข้าวโพด ลูกชิด หรือลูกตาลเชื่อมก็ได้
สรรพคุณของเฉาก๊วย
เช่นเดียวกับพืชอื่นๆในวงศ์ มิ้นท์ เฉาก๊วยยังมีสรรพคุณแก้ร้อนในกระหายน้ำ แต่เนื่องจากมีระดับของน้ำมันหอมระเหย และสารออกฤทธิ์ ในระดับที่ต่ำกว่าตระกูลกระเพราเป็นอย่างมาก จึงส่งผลให้เฉาก๊วยไม่มีฤทธิ์ขับลม หรือบรรเทาปวด เหมือนดังที่มีในพืชตระกูลกระเพรา-โหระพา

วันเสาร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2554

ก-ฮ ผิดเพี้ยน ภาษาไทย

ก-ฮ มาดูเด็กสมัยนี้ใช้คำ ก-ฮ ส่วนมากกันอย่างไร

ก. เกรียน เกรียน เป็นศัพท์สแลงแทนบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว ก่อกวน ไร้เหตุผล หรือคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของสังคมอินเทอร์เน็ต บุคคลกลุ่มนี้จะใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลหรือการวิเคราะห์ไตร่ตรอง นอกจากนี้ยังอาจหมายถึงบุคคลที่ชอบแสดงตัวว่ามีความรู้ ทั้งที่ในความเป็นจริงไม่มีความรู้ดังกล่าวเลย หรือมีเพียงผิวเผินเท่านั้น
ข.โข่ง  คือบุคคลที่โตแล้ว หรือมีตัวที่โต แต่ยังเล่น หรือยังทำอะไรที่คนที่อายุน้อยกว่า หรือ ตัวเล็กกว่าทำเช่น คนอายุ25 มาเรียนหนังสือกับเด็กอนุบาล ก็จะถูกเรียกว่าเด็กโข่ง
ฃ.ฃวด ฃ ฃ ฃ ฃ หายไป
ค.คน มาแทนที่ควาย มีคุณสมบัติ อดทนสูง
ฅ.ฅน หายไปไหน
ฆ.ฆ่า เดี่ยวนี้คนใจดำอะไรนิดอะไรหน่อยก็คิดจะฆ่าเอาชีวิตกัน
ง.งาน สมัยนี้คนบ้างานเยอะ บ้างานด้วยแถมจนด้วยยิ่งเยอะ ไม่รู้จะลำบากไปเพื่ออะไร เพื่อเจ้านายเพื่อบริษัทกันทั้งนั้น ทั้งๆที่พ่อแม่ก็มีที่ดินทำมาหากิน ให้เป็นเจ้านายตัวเอง สบายกว่ากันเยอะแต่กลับคิดว่าลำบาก
จ.จน คนจนมีเยอะกว่าคนรวย สวรรค์กลั่นแกล้ง หรือโอกาสไม่มี หรืออะไรกันแน่
ฉ.ฉีดผิวขาว อนาคตคงไม่มีคนผิวดำแล้วล่ะท่านเอ๋ย
ช.ชิมิ  คือ ใช่ไหม
ซ.ซ่อม เรียนแล้วต้องซ่อมกันอยู่ร่ำไป ก็เพราะมาเรียนภาษาไทยเพี้ยนๆในบล็อกนี้ไงเล่า
ฌ.กะเฌอ อย่าเรียกผิดเป็นฌ.กระเทยเป็นพอ
ญ.หญ้า  เดี่ยวนี้เกษตรกรเขาไม่ทำนา ทำไร่ ทำสวนกันแล้ว เขาไปรับจ้างกันหมด เหลือพื้นที่ไว้ให้หญ้าขึ้นแทนผลผลิตทางการเกษตร

แบบโคมไฟ รวมคอเล็คชั่นโคมไฟ

รวบรวมแบบของโคมไฟต่างๆนาๆมากมาย อยากเห็นโคมไฟหลากหลายรูปแบบลองดูได้ คัดมาแต่โคมไฟที่สดุดตาสดุดใจ อิอิ มาชมกัน
















หมาวัด หมาเล่าเรื่อง

เล่าเรื่องจากภาพหมา หมา รวมเรื่องจากภาพหมาวัด หมาบ้าน หมาจรจัด หมาคุณหนู หมาผู้ดี กันดีกว่า
หมาโดดเดี่ยว
หวัดดีครับ!! ผมเป็นหมาโดดเดี่ยว ผมไม่มีบ้าน ไม่มีเพื่อน จะว่าว่าไม่มีบ้านก็ไม่ถูกซิน่ะ เพราะบ้านผมอยู่ทั่วไปเลยล่ะคุณ ผมอยากนอนตรงไหนก็นอนได้เลย ชีวิตของหมาอย่างผมช่างอิสระเหลือ ใครบอกว่าหมาอิสระอย่างผมจะอดตาย ไม่ถึงกับอดตายหลอกผมขอบอก วันนี้ ผมเดินทางมาเรื่อยจนได้มานั่งพักที่ชายหาดแห่งหนึ่งมันช่างสงบมาก ผมเลยอดคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปตามประสาหมา หมาอย่างผมเหมือนไม่มีเพื่อนน่ะ ใช่ปัจจุบันนะไม่มี แต่อดีตตอนที่ผมยังหนุ่มยังแน่นอยู่ผมมีเพื่อนหลายตัวเลยล่ะ ว่าแล้วผมจะเล่าเรื่องเพื่อนๆของผมให้ฟังน่ะ เอาเรื่องของหมาตะกะก่อน คือ
หมาตะกละ หมาพวกนี้น่ะ มันเอาแต่กิน กิน แล้วก็กิน ไม่รู้จักดูแลตัวเอง ไม่ยอมออกกำลังกายมั่งเลยผมก็พอจะมีรูปถ่ายอยู่นะ คุณลองดูรูปเอาแล้วกันนะ
หมาอ้วน

ต่อไปผมจะพูดถึงเพื่อนๆหมาอีกกลุ่มหนึ่งนะครับ พวกนี้มันว่างมากครับ ชอบจับกลุ่มอยู่ด้วยกันวันๆ คิดแต่เรื่องว่า จะไปวิ่งแข่งกันที่ถนนสายไหนดี หรือไม่ก็จะไปประลองกะใครดี พวกนี้ไม่ค่อยแยกกันหลอกครับไปไหนต้องไปด้วยกัน เพราะไปตัวเดียวกลัวเหลือแต่วิญญาณกลับมา
ฝูงหมา
ต่อไป หมาวัด หมาพวกนี้บุคคลชอบพูดถึงบ่อย สงสัยเป็นเพราะว่า เป็นหมาใจบุญนะครับ อยู่วัดเวลาพระสวดก็ได้ฟังธรรมไปด้วยในตัว แต่น่าแปลกทำไมผู้หญิงถึงไม่ชอบหมาวัดก็ไม่รู้ซิครับ แต่ผมก็ยังงงทำไมต้องเอาหมาวัดไปเปรียบกะเครื่องบิน โธ่!! มันช่างเศร้าใจ
หมาวัด

วันศุกร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2554

ว่าน 109 ชนิด

ว่าน ...อานุภาพแห่งว่านมงคล 109 ชนิด
ว่าน

1.ว่านตระกูลกวัก  ซึ่ง บันทึกไว้ในตำราสมุดข่อยโบราณ กล่าวไว้ว่ามีอานุภาพทางด้านโชคลาภ เมตตามหานิยม ดีทางโภคทรัพย์ เป็นสิริมงคลต่อผู้ครอบครอง ประกอบด้วย ว่านกวักพระพุทธเจ้าหลวง ว่านกวักนางพญาใหญ่ ว่านกวักนางพญาเล็ก หรือ ว่านกวักนางพญามหาเศรษฐี ว่านกวักมาคาวดี หรือ ว่านมหาโชค ว่านกวักหงสาวดี ว่านกวักแม่จันทร์ ว่านกวักโพธิ์เงิน ว่านกวักทองใบ ว่านกวักเงิน กวักทอง ว่านกวักเศรษฐีพญาบดินทร์ ว่านกวักนางพญาเผือก โดยเฉพาะว่านกวักนางพญา ถือกันว่า เป็นว่าน ที่มีตระกูลสูงส่งผลทางด้านอำนาจราชศักดิ์ เรียกอีกอย่างว่า ว่านทรงยศ ทรงเกียรติ เป็นสง่าราศีแก่ผู้พบเห็น

2.ว่านตระกูลเสน่ห์จันทร์  ประกอบ ด้วย เสน่ห์จันทร์มหาโพธิ์ เสน่ห์จันทร์ขาว เสน่ห์จันทร์แดง เสน่ห์จันทร์เขียว เสน่ห์จันทร์หอม เสน่ห์จันทร์ทอง อานุภาพของว่านตระกูลเสน่ห์จันทร์ จะเด่นทางด้านเสน่ห์เมตตามหานิยม เป็นที่รักเมตตาแก่ผู้พบเห็น โบราณใช้ทำนางกวัก ค้าขายดี มีโชคลาภ


3.ว่านตระกูลเศรษฐี เป็น ว่านที่บ่งบอกในตัวเอง อานุภาพให้คุณทางด้านลาภผล เงินทอง โบราณกล่าวว่า ผู้ใดได้ครอบครอง จะเจริญด้วยฐานะ บริบูรณ์ ด้วย โภคทรัพย์ ข้าทาสบริวาร จัดเป็นตระกูลว่านที่นิยม อย่างยิ่ง โบราณมักจะนำมาปลูกในกระถางที่มีค่า เช่น กระถางลายคราม  ดังนั้น จึงเป็นว่านตระกูลสูงอีกประเภทหนึ่งมีดังนี้ ว่านเศรษฐีเรือนนอก ว่านเศรษฐีเรือนใน ว่านเศรษฐีขอด (กอบ ทรัพย์) ว่านเศรษฐีด่าง ว่านเศรษฐีมงคล ว่านมหาเศรษฐี ว่านเศรษฐีจีน ว่านเศรษฐีญวน ว่านเศรษฐีแขก ว่านเศรษฐีใบพาย ว่านเศรษฐีใบโพธิ์ ว่านเศรษฐีเรือนใหญ่ ว่านเศรษฐีเรือนแก้ว


4.ว่านโกเมน อานุภาพทางด้านเมตตามหานิยม มีโชคลาภ


5.ว่านหม่องเล ว่านนี้ตามตำราพม่ากล่าวว่า มีอานุภาพ เรียกเงินเรียกทองเข้าบ้าน เรียกมิตรมาหาร้านค้าขาย ควรมีว่านชนิดนี้ไว้ครอบครอง


6.ว่านไก่กุก อานุภาพ ทางเสน่ห์เมตตานิยม ซึ่งว่านนี้สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) แห่งวัดระฆังโฆสิตาราม ผู้สร้างพระสมเด็จอันลือชื่อก็ได้ใช้ว่านนี้เป็นส่วนผสมในพระสมเด็จวัดระฆัง ที่ท่านสร้างด้วย


7.ว่านไก่ฟ้าพญาแล อานุภาพทางด้านเมตตามหานิยม


8.ว่านกำแพงเจ็ดชั้น  มีอานุภาพทางด้านคุ้มครอง ป้องกันภัย กันและแก้ คุณไสยภูตผีปีศาจ สิ่งอัปมงคลทั้งปวงไม่ให้กล้ำกราย


9.ว่านกระแจะจันทร์หงสา มีอานุภาพทางเสน่ห์เมตตา นิยม เป็นที่รัก เมตตาแก่ผู้พบเห็น


10.ว่านคุ้มรจนา มีอานุภาพคุ้มครองปกป้องเคหสถาน บ้านเรือนให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข


11.ว่านเครือสาวหลง เป็น ว่านพิเศษที่มีลักษณะฝอยๆ ไม่มีลำต้น ไม่มีใบ จะเกาะอยู่ตามต้นไม้ขนาดใหญ่ในป่าลึก มีกลิ่นหอมตลอดเวลา มีอานุภาพทางด้านเมตตามหานิยมสูงมาก ซึ่งว่านนี้พระเทพรัตนกวี เจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุได้ให้พวกที่หาของป่า และนำมาวางขายในวัดช่วงงานประจำปี ไปหามาจากป่าลึกทางภาคเหนือ


12.ว่านเงินไหลมา มีอานุภาพเรียกเงินทองให้เข้ามาสู่เคหะสถาน บ้านเรือน ทั้งยังคุ้มครองปกป้อง เป็นว่านนิยมมากของคนไทย


13.ว่านเงาะถอดรูป มี อิทธิฤทธิ์เมตตามหานิยม เป็นที่รักเมตตาแก่ผู้พบเห็น ดีทางค้าขาย ประดุจเงาะถอดรูป ใครเห็นใครก็รัก แล้วยังมีอานุภาพเรียกลูกค้าเข้ามาสู่ร้านค้าอีกด้วย


14.ว่านช้างพลาย มีอานุภาพทางเมตตามหานิยม เป็นสง่าราศี ขับเสนียดจัญไร ศัตรูหมู่มาร เป็นเดชอำนาจบารมี


15.ว่านช้างดำ มีอานุภาพทางคุ้มครองป้องกัน เสมือนเกราะแก้ว คุ้มกัน และ ป้องกันไฟเวทย์มนต์คาถาทำอันตรายไม่ได้


16.ว่านญาณรังษี มีอานุภาพประดุจพทุธานุภาพแห่งพระพุทธองค์ หัวว่านนี้ มีลักษณะชั้นๆ 3 ชั้น คล้ายพระพุทธรูปประทับนั่งบนรัตนบัลลังก์


17.ว่านถุงเงินถุงทอง มีอานุภาพทางด้านโภคทรัพย์ ประดุจถุงเงินถุงทอง ในเคหะสถานบ้านเรือนดีทางโชคลาภ และป้องกันคุณไสยต่างๆ


18.ว่านทองไหลมา เป็นว่านมงคลคู่กัยว่านเงินไหลมา อานุภาพให้ผู้ครอบครองมีโชคลาภอยู่เป็นนิจ


19.ว่านเทพรำพึง เป็นเอกทางด้านเมตตามหานิยม เป็นสิริมงคลแก่ผู้ครอบครอง


20.ว่านธรรมรักษา เป็นว่านสิริมงคล โน้มน้าวให้ประพฤติปฏิบัติ อยู่ในศีลธรรม ป้งอกันภัยพิบัติ


21.ว่านนางพญาหงษ์ทอง เป็นว่านทางเมตตามหานิยม เจรจาสิ่งใดจะเป็นที่พอใจถูกอัธยาศัยกับผู้ที่พบเห็น


22.ว่านนพมาศ เป็น ว่านเก่าแก่ครั้งกรุงสุโขทัย มีอานุภาพป้องกันเสนียจัญไร คุ้มครองป้องกันภัยพิบัติ เป็นสิริมงคล พร้อมพรั่งทางด้านเมตตานิยม เป็นสง่าราศี


23.ว่านนเรศวร เป็นว่านที่ทรงอานุภาพ ด้านมหาอำนาจ ตบะเดชะ เป็นที่ยำเกรงต่อศัตรู หมู่มาร และ คุ้มครองปกป้องเป็นเลิศ


24.ว่านน้ำเต้าทอง เด่นทางเมตตา โชคลาภ ทั้งยังมีคุณทางด้านอยู่ยงคงกระพัน


25.ว่านปัดตลอด อานุภาพทางด้านแคล้วคลาด ปราศจาก อุปสรรค


26.ว่านปัญจเศวตร มีอานุภาพด้านคุ้มครอง ปกป้องเป็นตบะบารมี


27.ว่านประกายเพชร ดีทางโชคลาภ เป็นเสน่ห์มหานิยม เจริญด้วยโภคทรัพย์


28.ว่านพญาหัวเสือ เด่นทางด้านอำนาจราชศักดิ์ เป็นตบะเดชะ นะจังงัง และ คงกระพันชาตรี


29.ว่านพญากาเผือก เป็นว่านที่ดีทางเรียกโชค เรียกลาภ เด่านเป็นสง่า คือ เมตตาหานิยม


30.ว่านเพชรกลับดำ อานุภาพเด่นทางแคล้วคลาด ปกป้องจากสิ่งอัปมงคล ไปที่ใดปราศจากอันตราย และกลับถึงเคหะสถานได้เป็นอัศจรรย์


31.ว่านเพชรหลีก ดีทางแคล้วคลาดจากภยันตราย ศาตราวุธ ทั้งปวง


32.ว่านมหาอุตม์ มีอานุภาพทางด้านคงกระพันชาตรี เป็นว่านเก่าโบราณ


33.ว่านมหาหงษ์แดง เป็นว่านที่มีสิริมงคล คนโบราณมักพกพากับตัวเวลาเข้าหาเจ้านาย ว่ากันว่าเป็นเสน่ห์มหานิยมยิ่งนัก


34.ว่านมงคลชัย เป็นว่านที่มีสิริมงคลตามชื่อว่าน ศัตรูหมู่มารมิอยากเข้าใกล้ ก็ด้วยอานุภาพแห่งชัยมงคลของว่านนี้


35.ว่านวาสนาทางลาย เด่นทางโชคลาภวาสนา เจริญด้วยความสมบูรณ์พูนสุข


36.ว่านแววมยุรา เป็นว่านที่มีสรรพคุณทางเมตตามหานิยม นำโชคลาภเป็นสิริมงคลแก่บ้านเรือนผู้ครอบครอง


37.ว่านสาริกาลิ้นทอง มีอานุภาพทางเมตตามหานิยมโบราณใช้โขลกตำผสมกับสีผึ้งทาปาก เพื่อไปติดต่อเจรจาค้าขาย จะเป็นที่เมตตาและสำเร็จตามปรารถนา


38.ว่านกระทู้เจ็ดแบก เป็นว่านเด่นทางคงกระพันชาตรี นักรบโบราณมักใช้ว่านนี้ในการรพทัพจับศึก


39.ว่านกำบัง มีอานุภาพป้องกันสรรพภัย คุณไสยเวทย์วิทยาคมที่ประสงค์ร้าย และ แคล้วคลาดปราศจากเหตุร้าย


40.ว่านกงจักรพระอินทร์ เป็นว่านดีทางอยู่ยงคงกระพัน เมตตามหานิยมเป็นอำนาจป้องปราบ ข้าศึกศัตรู


41.ว่านขมิ้นขาวปัดตลอด ว่าน นี้อยู่ที่ใดก็นำความเจริญ มาสู่ที่นั่น ทั้งยังนำโชคลาภความเจริญ ความมีเมตตามหานิยม และความร่มเย็นเป็นสุขมั่งคั่ง สมบูรณ์พูนผล เจริญในหน้าที่การงาน ว่านนี้พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว พระเกจิอาจารย์ ผู้สร้างพระหลวงพ่อทวดเนื้อว่าน อันโด่งดัง กล่าวไว้ว่า ว่านนี่เป็น “พญาว่าน” มีอานุภาพมาก ท่านเคยนำไปสร้างพระหลวงพ่อทวด เนื้อขมิ้นขาว ปัจจุบันองค์ละหลายหมื่นบาท


42.ว่านค้ำคูณ เป็นว่านดีทางเมตตามหานิยมแก่เคหสถาน บ้านเรือน ค้ำจุนชะตาชีวิต เพิ่มพูนพลัง


43.ว่านเพรชหน้าทั่ง เป็นว่านเสน่ห์มหานิยมและคงกระพันชาตรี


44.จ่าว่าน เป็นว่านอานุภาพสูง มีสรรพคุณคุมกำลังว่านต่างๆ ให้ทรงด้วยอานุภาพ ป้องกันเสนียดจัญไร พิษร้ายต่างๆ


45.ว่านจังงัง เป็นเมตตามหานิยม  เป็นที่รักใคร่เมตตาแก่ศัตรูหมู่มารทำให้ไม่กล้าคิดร้าย อำนาจของว่านจะทำให้ศัตรูเกิดจังงัง


46.ว่านดาบหลวง เป็นต้นว่านที่มีอำนาจป้องกันฟ้าผ่า ป้องกันอันตรายแคล้วคลาดเป็นเยี่ยม เป็นตบะเดชะและเสน่ห์ มหานิยมแก่ผู้พบเห็น


47.ว่านฤษี ดีทางเสน่ห์มหานิยมยอดเยี่ยม เข้าหาเจ้านายดียิ่งนัก


48.ว่านถอนโมกขศักดิ์ ใช้ดีทางด้านแก้ถอนคุณไสย ยาเบื่อเมาทุกประเภท


49.ว่านเถาวัลย์หลง ดีทางเจรจาพาที เป็นที่เมตตามหานิยม กลับจากโกรธเป็นรักเมตตา เปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดี


50.ว่านเทพรัญจวน ให้ในทางเมตตามหานิยม เป็นที่รัก เมตตาต่อผู้พบเห็น


51.ว่านนางล้อม เป็นว่านมหามงคล ป้องกันสรรพสัตว์ทั้งปวง และศัตรูหมู่มาร เมื่อเกิดเรื่องราวใด จะได้รับชัยชนะเสมอ

52.ว่านนางคุ้ม ป้องกันไฟ และคุ้มกันภยันตรายต่างๆ โบราณกล่าวว่า ว่านนางคุ้มมีไว้คุ้มครองบ้านเรือน เสมือนมีเกราะเพชรไว้ป้องกันภัยถึง 7 ชั้น

53.ว่านปลาไหลม่วง เป็นว่านแก้คุณไสย ลมเพลมพัด กันอัปมงคลต่างๆ

54.ว่านเพ็ชรนารายณ์ เป็นว่านตระกูลสูง มีอำนาจตบะเดชะ เพิ่มพูนบารมีและเจริญด้วยยศถาบรรดาศักดิ์

55.ว่านเพ็ชรกลับ ว่าน นี้มีอานุภาพอยู่ยงคงกระพัน เป็นว่านป้องกันการถูกคุณไสยและแก้อาถรรพ์ ป้องกันอุบัติเหตุ เป็นมงคลแก้วคุ้มครองป้องกันทั้งไปและกลับ ปราศจากอันตราย

56.ว่านพัดโบก เป็นว่านมหามงคลสูงพร้อมด้วยเมตตา มหานิยม โบราณว่าว่านนี้อยู่บ้านใดจะได้ลาภมหาศาล นำความร่มเย็นเป็นสุขมาสู่บ้านเรือน

57.ว่านไพรปลุกเสก อานุภาพเกิดลาภผล ความอุดมสมบูรณ์พูนสุขเจริญรุ่งเรือง ทั้งยังแก้คุณไสย ขับภูติ ผี ปีศาจ

58.ว่านพุทธกวัก ว่านนี้ดีทางเมตตาและทางการค้า เป็นสิริมงคลแก่สถานที่และผู้ครอบครอง

59.ว่านนางพญาห้าร้อย มีสรรพคุณทางเสน่ห์เมตตามหานิยม เป็นที่ชื่นชอบในหมู่ชน

60.ว่านพญาจงอาง อานุภาพด้านกันงูและสัตว์มีพิษ ตลอดจนสรรพภัยทุกชนิดไม่ให้กล้ำกลาย

61.ว่านพระฉิม เป็นสิริมงคล อุดมด้วยโภคทรัพย์และคงกระพันชาตรี

62.ว่านพะตะบะ ใช้กันภูติ ผี ปีศาจ มีอานภาพสูงมาก วิญญาณต่างๆ จะไม่เข้าใกล้ แต่เทพยดาอารักษ์จะรู้จักว่านชนิดนี้ดี

63.ว่านพรายแก้ว เป็นว่านคงกระพันชาตรี เป็นเสน่ห์มหานิยมสำหรับร้านค้าขาย

64.ว่านมหานิยม ตรงตามชื่อ เป็นเมตตามหานิยม สิริมงคล ต่อผู้ครอบครอง

65.ว่านแม่ทัพ มีอานุภาพทางคงกระพันชาตรี เพิ่มพูนตบะเดชะ อำนาจบารมี

66.ว่านมหาเมฆ เป็นว่านนิยมมาตั้งแต่โบราณ ดีทางคลกระพันชาตรี เป็นตบะเดชะ

67.ว่านมหาปราบ สรรพคุณดีทางฤทธิ์และอำนาจ อยู่ยงคงกระพัน ป้องกัน ภูติ ผี ปีศาจ ได้ดียิ่งนัก

68.ว่านมรกต ดีทางคงกระพันชาตรี เป็นตบะเดชะ

69.ว่านมหาเสน่ห์ อานุภาพดีทางเสน่ห์มหานิยม เป็นว่านมีอานุภาพชั้นสูง ดึงดูดจิตใจผู้คนใช้ทางค้าขาย มีสรรพคุณเป็นเลิศ

70.ว่านมหาอุดม เป็นว่านมหานิยมสูงมาก เป็นที่รักใคร่ เมตตาแก่ผู้ที่พบเห็น

71.ว่านมหาจักรพรรดิ ใช้ดีทางเมตตามหานิยม มีอิทธิฤทธิ์ทางคุ้มครองเคหสถานบ้านเรือน ป้องกันเสนียดจัญไร อีกชื่อคือ ว่านอรหันต์แปดทิศ

72.ว่านมหากวัก อานุภาพ สิริมงคล ส่งเสริมกิจการธุรกิจการค้าและเจริญก้าวหน้า เข้าเจรจากับผู้ใหญ่เป็นที่รักของผู้คนโบราณเอาว่านนี้ แช่น้ำมนต์ประพรมร้านค้า จะค้าขายดีมาก

73.ว่านรางจืดเถา มีอานุภาพทางถอนพิษ ถอนยาสั่งโบราณว่าว่านนี้มีค่า 5,000 ตำลึงทอง ดังนั้นต้องเป็นว่านที่ไม่ธรรมดา

74.ว่านภควัมบดี มีอานุภาพเป็นศรีสง่า สิริมงคลนำโชคลาภบันดาลให้เจริญด้วยโภคทรัพย์ มีความอุดมสมบูรณ์และอยู่เย็นเป็นสุข

75.ว่านศรนารายณ์ มีอานุภาพทางคงกระพันชาตรี และเมตตามหามงคล

76.ว่านสามพันตึง มีอานุภาพทางอยู่ยงคงกระพันชาตรี ต่อศัตราวุธทั้งปวง

77.ว่านสามกษัตริย์ เป็นเมตตามหานิยมรักใคร่และความเจริญรุ่งเรือง

78.ว่านสาวหลง เป็น ว่านที่ทรงคุณค่าทางด้านเมตตามหานิยมอย่างสูงสุด โบราณกล่าวว่า ว่านนี้ไม่เป็นเสนียดจัญไร มีอานุภาพสูงล้ำเกิดเสน่ห์เมตตาเจรจากับใครไม่มีรังเกียจ ทั้งยังเป็นว่านที่ดีทางโภคทรัพย์พกไว้ เงินจะไม่ขาดกระเป๋า

79.ว่านเหล็กไหล ดีทางด้านคงกระพันชาตรี มีตบะเดชะ

80.ว่านพัดแม่ชี มีอานุภาพสูงทางด้านปัดเป่าสิ่งอัปมงคล ป้องกันอำนาจคุณไสย และผู้ที่คิดร้าย ว่านี้ใช้ถอนคุณไสยได้
ว่านอุมาวดี
81.ว่านอุมาวดี มีอานุภาพบันดาลให้ประสบโชคลาภ ความร่มเย็นเป็นสุข

82.ว่านกวักพระพรหม เป็น ว่านที่มีอานุภาพสูง นำโชคลาภความร่มเย็น เป็นสุขมาสู่เคหสถานบ้านเรือน เจริญรุ่งเรืองและคุ้มครอง ป้องกันภัยอันตรายได้อย่างดีเยี่ยม

83.ว่านกระบี่ทอง มีสรรพคุณทางคงกะพันชาตรี

84.ว่านกุมารทอง มีสรรพคุณทางด้านคงกระพันชาตรี ค้าขายดี มีกำไรเป็นสิริมงคลทั้งยังมีอำนาจ มีเทวดารักษาคุ้มครอง

85.ว่านกาสัก มีอานุภาพทางคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด ปลอดภัย

86.ว่านกบ เป็นว่านมีเทพรักษา มีอานุภาพทางด้านคงกระพันชาตรี ป้องกัน ไม่ให้ภัยพิบัติมาแผ้วพาล

87.ว่านขมิ้นขาวเสน่ห์ ดีทางด้านเมตตามหานิยม ทั้งยังเป็นเมตตามหานิยม

88.ว่านเขียวพันปี ให้คุณทางด้านเมตตามหานิยม

89.ว่านพระยาค่าง ให้คุณทางด้านคงกระพันชาตรี

90.ว่านเฉลิม ตำราว่านกล่าวว่า ว่านนี้ดีทางเมตตามหานิยม คนเห็นคนรักคนชอบ

91.ว่านเณรแก้ว เป็นเมตตามหานิยมและคงกระพันชาตรี

92.ว่านรางเงิน เป็นสิริมงคลและเมตตามหานิยมโชคลาภ

ว่านรางทอง
93.ว่านรางทอง เป็นสิริมงคลและเมตตามหานิยมโชคลาภ
94.ว่านรางนาค เป็นสิริมงคลและเมตตามหานิยมโชคลาภ

95.ว่านสิทธิโชค เป็นว่านที่มากด้วยสรรพคุณทางเมตตามหานิยม ทำให้ประสบโชคลาภ

96.ว่านแสนนางล้อม เป็นว่านที่มีสิริมงคลและป้องกันอัคคีภัยได้

97.ว่านเสือสามทุ่ง มีอานุภาพทางด้านบารมี ปกป้อง คุ้มครองเป็นตบะเดชะอำนาจ

98.ว่านปู่โสมเฝ้าทรัพย์ มีอำนาจเดชบารมี อยู่ที่ใดมักมีทรัพย์สมบัติมิได้ขาด

99.ว่านแสงอาทิตย์ มีอิทธิฤทธิ์อำนาจ ความร่มเย็นเป็นสุข

100.ว่านสบู่เหล็ก มีสรรพคุณทางคงกระพันชาตรี

101.ว่านหอมดำ เป็นว่านมีอานุภาพทางคงกระพันชาตรี

102.ว่านหางเสือ มีอานุภาพทางด้านป้องกัน ภูติ ผี ปีศาจ และคุณไสยต่างๆ

103.ว่านพญาหงส์เงิน ดีทางด้านเมตตามหานิยมและเดชอำนาจ

104.ว่านลิ้นกระทิงลาย ดีทางเมตตามหานิยมและคงกระพันชาตรี ป้องกันอันตรายจากหมู่มาร

105.ว่านกลิ้งกลางดง มีสรรพคุณทางด้านคงกระพันชาตรี

106.ว่านสบู่เลือด ดีทางด้านคงกระพันชาตรี โบราณนิยมมาสร้างพระ เช่น พระผงน้ำมัน วัดชนะสงคราม

107.ว่านท้าวชมพู ดีทางคงกระพันชาตรี

108.ว่านชมพูหนังแห้ง ดีทางคงกระพันชาตรีป้องกันศัตราวุธ เป็นว่านที่ดีมาก

109.ว่านเรไร  หรือ ว่านจั๊กจั่น หรือ ว่านต่อเงินต่อทอง อานุภาพดีเด่นทางด้านโชคลาภ เรียกเงิน เรียกทอง เมตตา แคล้วคลาดเตือนภัย โดยมีความเชื่อว่าว่านจักจั่นนี้เป็นเครื่องรางให้โชคลาภ และยังเป็นเครื่องรางที่มีประจำรถไว้ จะแคล้วคลาดปลอดภัยจากอุบัติเหตุ วันดีคืนดีจะมีเสียงร้องเหมือนเสียงจั๊กจั่น ว่ากันว่าใครได้ยินเสียงจะได้เงินได้ทอง
ขอบคุณข้อมูลจาก www.akefuture.com

ว่าด้วยเรื่องแม่หม้าย (แม่ม่าย)

แม่หม้าย (แม่ม่าย) ส่วนมากมักหมายถึง ผู้หญิงที่มีสามีแล้วและกลับมาเป็นโสดอีกครั้ง จะเนื่องด้วยสามีตาย อย่าร้าง หรือสามีหายสาบสูญไปก็แล้วแต่ ถือว่าเป็นแม่หม้าย
แม่หม้าย เมื่อนำไปผสมคำอื่นๆ ก็มีความหมายแตกต่างกันไป เช่น
ผู้ชายที่เชื่อเรื่องผีแม่หม้ายจะต้องแต่งตัวเหมือนผู้หญิง

ผีแม่หม้าย (แม่ม่าย) หมายถึง  บางพื้นที่จะแตกต่างกันไปตามความเชื่อ  บางคนเชื่อว่าผีแม่หม้ายจะมาคร่าเอาชีวิตผู้ชายไป โดยการมาเข้าฝัน และมา...แล้วทำให้ผู้ชายคนนั้นเกิดอาการไหลตายหรือหลับไม่ตื่นนั้นเอง  บางพื้นที่เชื่อว่า ถ้ามีอักษรนั้น อักษรนี้ ผีแม่หม้ายจะมาเอาชีวิต ในกรณีนี้จะแก้เคร็ดด้วยการทำขนมจีน หรือ อื่นๆแล้วแต่ความเชื่อ ของแต่ละพื้นที่เพื่อแจกจ่ายให้คนในหมู่บ้านกิน เป็นต้น ส่วนความเชื่อในเรื่องจะคร่าเอาชีวิตผู้ชาย จะแก้เคร็ดด้วยการให้ผู้ชายแต่งตัวเป็นผู้หญิง บ้างก็ทาเล็บ ทาริมฝีปาก หรือไม่ก็แต่งหน้า เป็นต้น เพื่อหลอกผีแม่หม้ายว่าเป็นผู้หญิง งานนี้จานโหดก็ไม่รู้ว่าตกลงผีหลอกคนหรือคนหลอกผีกันแน่เลย
แมงมุมแม่หม้าย

แมงมุมแม่หม้าย คือ แมงมุมชนิดหนึ่งที่มีพิษร้ายแรงมาก สาเหตุที่ชื่อว่าแมงมุมแม่หม้ายนี่ ก็น่าจะมาจากหล่อนจะฆ่าสามีตัวเองเมื่อผสมพันธุ์เสร็จนั่นเอง อันนี้จานโหดคาดเดานะ แมงมุมแม่หม้ายมีพิษสามารถฆ่าคนที่ถูกกัดได้เลยทีเดียวเชียวล่ะ พิษ แมงมุมแม่ม่ายดำ จะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท โดยเฉพาะระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ผิวหนังตาย หรือมีเลือดออกตามอวัยวะภายในต่างๆ ต่อมน้ำเหลืองบริเวณใกล้เคียง เช่น บริเวณรักแร้ ขาหนีบ มีการอักเสบกดรู้สึกเจ็บได้ มีเหงื่อออก ขนลุก ความดันโลหิตสูง รอยกัดเขียวช้ำ มีจุดแดง อ่อนแรง สั่นปวดกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อเกร็ง ท้องแข็ง เป็นอัมพาต ซึม และชักในรายที่แพ้พิษรุนแรง พิษของมันยังทำลายไต สุดท้ายตายด้วยภาวะไตวายหรือการหายใจล้มเหลว
แม่หม้ายงานท่าน คือ หญิงที่เป็นภรรยาของข้าราชการผู้มีบรรดาศักดิ์ แต่สามีตายหรืออย่าร้างกัน แม่หม้ายงานท่านจะไม่สามารถมีสามีใหม่ได้ ตามกฏหมายลักษณะอาญาหลวง มาตรา 85  เว้นไว้แต่จะได้รับพระบรมราชานุญาต ปัจจุบันกฎหมายลักษณะอาญาหลวงได้ถูกยกเลิกไปแล้ว
แม่หม้ายลูกติด หมายถึง ผู้หญิงที่สามีตาย อย่าร้าง หรือสามีหายตัวไป แต่มีลูกด้วย จะเรียกว่าแม่หม้ายลูกติด ขอแถมหนึ่งคำ คือ
หม้ายขันหมาก หมายถึง ผู้หญิงที่มีกำหนดแต่งงานแต่ฝ่ายเจ้าบ่าวไม่ยกขันหมากมาขอ

ลูกยอสุกกินได้(อร่อยแล)

ลูกยอ

ลูกยอสุก ใครเคยกินบ้าง คงมีน้อยมากเลย ลูกยอสุกมีประโยชน์มากมาย เช่น ช่วยขับลม ช่วยฆ่าพยาธิในร่างการ รสชาติบอกไม่ถูกเหมือนกันออกจีดๆ ซ่าๆ กลิ่นแรงๆ เฝือนๆ แต่อร่อยมากเมื่อจิ้มกับเกลือ
ลูกยอสุก
วิธีการบ่มลูกยอ นำลูกยอที่แก่แล้ว ลักษณะของลูกยอที่แก่แล้ว จะมีสีอ่อนลง คือกลายเป็นสีเหลืองนวลหรือเป็นสีขาว เด็ดลูกยอที่แก่แล้วมาบ่มในโอ่งเกลือประมาณสองวันก็จะทานได้ ลักษณะของลูกยอสุกจะนิ่มและเละง่ายมากยิ่งสุกมากยิ่งเละ ต้องกินตอนที่ยังสุกพอดีจิ้มกับเกลืออร่อยมากนักแล

ผักโสมไทย

ผักโสมไทย ใครเคยกินผักโสมไทยยกมือขึ้น จะมีกี่คนนะที่ยกมือขนาดคนถามยังไม่ได้กินมานานมากจนถึง 10 ปีได้เลยทีเดียว และแถวบ้านก็หายไปเลยไม่มีขึ้นอีกเลย คงเหลือไว้แต่ความทรงจำ
จำได้สมัยเด็กพ่อไปเด็ดผักโสมมาผัดไฟแดงให้กิน อร่อยมาก อีกอย่างจานโหดก็เป็นคนที่เชื่่อคนง่ายซะเหลือเกิน พ่อบอกว่ากินผักโสมแล้วจะมีร่างกายแข็งแรง ดูที่เขาโฆษณากันซิ กินโสมดีอย่างนั้นดีอย่างนี้
พ่อของจานโหดกล่าว จานโหดก็เชื่อมากเลยกินทุกวันเลยช่วงนั้น เพิ่งมารู้ว่ามันคนละโสมกันก็ตอนโตแล้วนี่แหละ 

ประโยชน์ของโสมไทย ก็คือ  บำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง  มันก็เป็นจริงอย่างที่พ่อบอกจริงๆนั่นแหละ